| มะเร็งปอด โรคมะเร็งปอดเป็นโรคที่เกิดจากเซลล์ของปอด เช่น เนื้อปอด หลอดลมกลายเป็นเซลล์มะเร็ง โรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบบ่อย หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาให้หายขาดได้ มะเร็งคืออะไร ร่างกายประกอบด้วยเซลล์เป็นจำนวนมาก ปกติเซลล์จะแบ่งตัวตามความต้องการของร่างกาย เช่น มีการผลิตเม็ดเลือดแดงเพิ่มเมื่อมีการเสียเลือด มีการผลิตเม็ดเลือดข้าวเพิ่มเมื่อมีการติดเชื้อ เป็นต้น แต่มีเซลล์ที่แบ่งตัวโดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เกิดเป็นเนื้องอก ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด ส่วนใหญ่พบร่วมกับการสูบบุหรี่
อาการของมะเร็งปอด อาการที่พบบ่อยมีดังนี้
การวินิจฉัย เมื่อแพทย์สงสัยแพทย์จะซักประวัติครอบครัว ปัจจัยเสี่ยงต่างๆและส่ง x-ray ปอด ส่งเสมหะตรวจหาเซลล์มะเร็ง การวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดคือการได้ชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิโดยพยาธิแพทย์วิธีการได้ชิ้นเนื้อมีหลายวิธีดังนี้ 1. Brochoscopy คือการส่องกล้องเข้าทางปาก ลงหลอดลม และเข้าปอดเพื่อตัดชิ้นเนื้อ< 2. Needle aspiration คือใช้เข็มเจาะผ่านผนังทรวงอกเข้าปอด และเข้าเนื้อร้ายแล้วดูดเอาชิ้นเนื้อส่งตรวจ< 3. Thoracenthesis คือใช้เข็มเจาะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดส่งตรวจหาเซลล์มะเร็ง 4. Thoracotomy คือผ่าเข้าในทรวงอกและตัดเนื้อร้ายออก หลังจากทราบว่าเป็นมะเร็งแพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเพื่อจะทราบว่ามะเร็งแพร่กระจายหรือยังโดยการตรวจดังนี้
การรักษา 1. การผ่าตัด แพทย์จะผ่าเอาเนื้อร้ายออกบางครั้งอาจต้องตัดปอดออกบางกลีบ lobectomy หรือตัดทั้งปอด pneumectomy 2. เคมีบำบัด การให้สารเคมีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง แม้ว่าจะได้รับการผ่าตัดไปแล้วอาจมีมะเร็งบางส่วนหลงเหลือจึงให้เคมีบำบัดเพื่อทำลายส่วนที่เหลือ 3. รังสีรักษา อาจให้ก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดของมะเร็ง แพทย์อาจให้เคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษา 4. Photodynamic therapy โดยการฉีดสารเคมีเข้าเส้นเลือด สารนั้นจะอยู่ที่เซลล์มะเร็งแล้วใช้ laserเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มะเร็งปอดมีกี่ชนิด เราแบ่งเป็นชนิดใหญ่ๆ 2 ชนิด 1. non-small cell lung cancer 2. Small cell carcinoma หรือที่เรียก oat cell cancer พบน้อยแต่แพร่กระจายเร็ว การรักษา non-small cell lung cancer แพทย์จะเลือกการผ่าตัด และให้รังสีร่วมกับเคมีบำบัดเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง การรักษา small cell lung cancer แพทย์จะเลือกให้เคมีรักษาร่วมกับการผ่าตัด และอาจให้รังสีรักษาแม้ว่าจะตรวจไม่พบว่ามีการแพร่กระจาย | ||
| |
โรคที่เกิดจากพฤติกรรมของบุคคล
มาออกกำลังกายกันเถอะ !!
“สุขภาพดี ไม่มีซื้อ ไม่มีขาย” คำๆนี้ พวกเรามักจะได้ยินบ่อยๆ จากพ่อ แม่ หรือลุง ป้า เสมอ เพราะคำๆนี้หมายความว่า การจะมีสุขภาพดีได้นั้น จะมีเงินมากมายเท่าไรก็ซื้อไม่ได้ แต่อยู่ที่ตัวเราเอง ฉะนั้นในเมื่อเราสามารถมีสุขภาพดีได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซักบาททำไมเราถึงไม่ลงมือทำมันตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น “การออกกำลังกาย”
ในการรักษาสุขภาพเรานั้น สามารถแบ่งออกได้ 4 มิติ คือการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟู การรักษาและการฟื้นฟูนั้น หมาสามารถทำให้เราได้ แต่การสร้างสุขภาพนั้นเราต้องทำด้วยตนเอง ฉะนั้นเราควรเริ่มด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การออกกำลังกาย การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ จะสร้างสุขภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เราได้กล้ามเนื้อ มีผลดีต่อ หัวใจ ปอด และระบบไหลเวียนเลือด อีกทั้งยังเผาผลาญไขมันส่วนเกินทำให้เราได้สัดส่วนและร่างกายที่ดี ไม่อ้วนแผละ ห่างไหลจากโรคอ้วน การออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างพอเหมาะจะทำให้สมองหลั่งสารสุข ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพ ทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย
ปริมาณการออกกำลังกายที่พอเหมาะนั้นขึ้นอยู่กับอายุ และเพศ แต่โดนเฉลี่ยแล้วนั้น คนเราควรได้รับการออกกำลังกายวันละ 30 – 60 นาที ประมาณ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์ รูปแบบของการออกกำลังกายนั้นทำได้หลายวิธีเช่นการเล่นกีฬา เช่นการเล่นบาสเกตบอล ฟุตบอล ปิงปองและอื่นๆอีกมากมาย การเล่นกล้ามก็นับว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดี ทำให้ได้กล้ามเนื้อและหุ่นที่กระชับ บางทีเราอาจจะไม่สะดวกไปออกกำลังกาย เพราะว่าต้องทำงานอยู่ในออฟฟิศ เราก็ควรจะลุกมาเดินบ้างชั่วโมงละครั้ง หรือทำกายบริหารอย่างง่ายๆภายในออฟฟิศ ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นเช่นกัน
เห็นไหมว่าการออกกำลังกายนั้นทำได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา และได้ผลตีต่อสุขภาพ ฉะนั้นอย่าผัดวันประกันพรุ่งจนเรามีสุขภาพแย่ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเงินก็ซื้อสุขภาพที่ดีกลับมาไม่ได้ มาเร่งสร้างสุขภาพที่ดีกันด้วยการออกำลังกายกันเถอะ เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป
การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคด้วยภูมิปัญญาไทย และการแพทย์แผนไทย
ภูมิปัญญา หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะความเชื่อ และศักยภาพในการแก้ปัญหาของมนุษย์ที่สืบทอดกันมาจากอดีตถึงปัจจุบันอย่างไม่ขาดสายและเชื่อมโยงกันทั้งระบบทุกสาขา
ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะและเทคนิคการตัดสินใจ ผลิตผลงานของบุคคล อันเกิดจากการสะสมองค์-ความรู้ทุกด้านที่ผ่านกระบวนการสืบทอด พัฒนาปรับปรุง และเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดีสามารถแก้ไขปัญหา และพัฒนาวิถีชีวิตของคนไทยได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัย ในแต่ละท้องถิ่นจะมีบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถที่เรียนรู้มาจากบรรพบุรุษ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายหรือผู้รู้ในท้องถิ่นต่างๆ เรียกว่า ผู้ทรงภูมิปัญญาไทย ตัวอย่างภูมิปัญญาไทยที่เราสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน เช่น ภาษา บทความ หรือวรรณกรรมต่างๆ เพลง ประเพณี วัสดุหรืออุปกรณ์ที่มีการนำมาใช้ตั้งแต่โบราณเช่น หมวกที่สานด้วยใบไม้แห้ง และอื่นๆ
ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะและเทคนิคการตัดสินใจ ผลิตผลงานของบุคคล อันเกิดจากการสะสมองค์-ความรู้ทุกด้านที่ผ่านกระบวนการสืบทอด พัฒนาปรับปรุง และเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดีสามารถแก้ไขปัญหา และพัฒนาวิถีชีวิตของคนไทยได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัย ในแต่ละท้องถิ่นจะมีบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถที่เรียนรู้มาจากบรรพบุรุษ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายหรือผู้รู้ในท้องถิ่นต่างๆ เรียกว่า ผู้ทรงภูมิปัญญาไทย ตัวอย่างภูมิปัญญาไทยที่เราสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน เช่น ภาษา บทความ หรือวรรณกรรมต่างๆ เพลง ประเพณี วัสดุหรืออุปกรณ์ที่มีการนำมาใช้ตั้งแต่โบราณเช่น หมวกที่สานด้วยใบไม้แห้ง และอื่นๆ
จากการศึกษาพบว่ามีการกำหนดสาขาของภูมิปัญญาไว้หลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกฎเกรณ์ต่างๆภูมิปัญญาไทยสามารถแบ่งออกได้หลายสาขา ดังนี้
1. สาขาเกษตรกรรม
2. สาขาอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม
3. สาขาการแพทย์แผนไทย
4. สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5. สาขาสวัสดิการ
6. สาขากองทุนและธุรกิจชุมชน
7. สาขาศิลปกรรม
8. สาขาการจัดการองค์กร
9. สาขาภาษาและวรรณกรรม
10. สาขาศาสนาและประเพณี
การแพทย์แผนไทย อาจหมายถึง กระบวนการทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการตรวจ วินิจฉัย บำบัด หรือป้องกันโรค หรือการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์หรือสัตว์ การผดุงครรภ์ การนวดไทย และหมายความรวมถึงการเตรียมการผลิตยาแผนไทย ประดิษฐ์อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยอาศัยความรู้หรือตำราที่ได้ถ่ายทอดและสืบต่อกันมา[1]
การแพทย์แผนไทยอาจจะไม่มีองค์ความรู้ด้านกลไกการเกิดโรค และเทคนิคทางศัลยกรรมมากนัก แต่ต้องมีองค์ความรู้ด้านกลวิธีทางคลินิก เช่น การซักประวัติ และการรักษาด้วยยา เพียงแต่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ทาง ซึ่งก็มาจากกฎข้อบังคับตามใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ที่ว่า " มิให้แพทย์แผนไทยกระทำการอันเป็นวิทยาศาสตร์ใด ๆ " นั่นเอง ทำให้ไม่สามารถมีการตั้งสมมุติฐานและวิจัยได้อย่างเต็มที่
การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค สามารถนำภูมิปัญญาไทยและการแพทย์แผนโบราณมาปรับใช้อย่างถูกต้องและได้ผล ยกตัวอย่างเช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง และถูกสุขอนามัย เพื่อแก้ปัญหาด้านการบริโภคอย่างปลอดภัย สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนหรือภายในบ้าน ทั้งการอนุรักษ์ การพัฒนาและการใช้อย่างยั่งยืน ซึ่งประโยชน์ที่เราได้รับนั้นจะส่งผลให้สุขภาพของประชาชนในชุมชนมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์
สาขาที่ส่งผลตรงต่อการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ได้แก่สาขาการแพทย์แผนไทย ซึ่งสาขาการแพทย์แผนไทย หมายถึง ความสามารถในการจัดการป้องกันและรักษาสุขภาพของคนในชุมชน โดยเน้นให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองทางด้านสุขภาพและอนามัยได้ โดยการแพทย์แผนไทยได้ใช้ความรู้ในการผลิตยาจากพืชสมุนไพรพื้นบ้านของไทยเพื่อใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่งสมุนไพรเป็นผลิตผลธรรมชาติที่ได้จาก พืช สัตว์ และแร่ธาตุ สมุนไพรไทยประกอบไปด้วย กระเทียม น้ำผึ้ง รากดิน เขากวางอ่อน กรรมถัน และอื่นๆอีกมากมาย และสมุนไพรยังช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างร่างกายของเราให้แข็งแรงอยู่เสมออีกด้วย
การส่งเสริมสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย ก็คือการดูแลสุขภาพโดยนำเอาภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยมาใช้ เป็นการดูแลแบบองค์รวม ผสมผสานระหว่างปรัชญาการดำเนินชีวิต ศาสนา วิทยาศาสตร์ โดยที่ทฤษฎีการแพทย์แผนไทยมีแนวคิดว่า มนุษย์มีลักษณะเฉพาะตัวเรียกว่า "ธาตุเจ้าเรือน" ประกอบด้วย ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ การส่งเสริมสุขภาพแนวนี้ จึงเน้นการปรับสมดุลของธาตุในร่างกาย เช่น การรับประทานอาหารสมุนไพร การอบสมุนไพร และการประคบสมุนไพร
การรับประทานอาหารสมุนไพรตามธาตุเจ้าเรือน
คนธาตุดิน จะมีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ ผมดกดำ กระดูกใหญ่ อาหารสำหรับธาตุดิน คือ อาหารที่มีรสฝาด หวาน มัน เค็ม เช่น ฝรั่งดิบ หัวปลี กล้วย มะละกอ เผือก ถั่วพู กระหล่ำปลี ผักกระเฉด ฯลฯ
คนธาตุน้ำ มักจะมีรูปร่างสมส่วน ผิวพรรณสดใส ตาหวาน อาหารสำหรับคนธาตุน้ำ ได้แก่ อาหารรสเปรี้ยว เช่น มะเขือเทศ ส้มโอ มะนาว ยอดมะขาม น้ำกระเจี๊ยบ ฯลฯ
คนธาตุลม มักมีรูปร่างสูงโปร่ง ไม่อ้วน ผิวหนังแห้ง ขี้อิจฉา ขี้ขลาด ช่างพูด อาหารสำหรับคนธาตุลม ได้แก่ อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ กะเพรา กระเทียม พริกไทย ฯลฯ
คนธาตุไฟ มักเป็นคนทนร้อนไม่ได้ หิวบ่อย ผมหงอกเร็ว ใจร้อน กลิ่นตัวแรง อาหารสำหรับคนธาตุไฟ ได้แก่ อาหารรสขม เย็น จืด เช่น สะเดา แตงโม หัวผักกาด ฟักเขียว บวบ มะเขือ ฯลฯ
การอบสมุนไพร
คือการอบตัวด้วยไอน้ำที่ได้จากการต้มสมุนไพร เป็นวิธีบำบัดรักษาอย่างหนึ่ง สมุนไพรที่ใช้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการหาได้ของแต่ละท้องถิ่น สมุนไพรสดจะดีกว่าสมุนไพรแห้ง การอบสมุนไพรมีประโยชน์ คือ ช่วยให้ผิวหนังสะอาด ขับเหงื่อ ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น บรรเทาอาการปวดเมื่อย เวียนศรีษะ รักษาอาการผื่นคันตามผิวหนัง เป็นต้น สมัยโบราณใช้กับหญิงหลังคลอดเพื่อให้สุขภาพดี ผิวสวย มดลูกเข้าอู่ดี ปัจจุบันมีผู้นิยมนำมาใช้ในการลดน้ำหนัก ทำให้ผิวสวย การประคบสมุนไพร
คือการใช้สมุนไพรหลายๆอย่างมาโขลกหยาบๆแล้วห่อรวมกัน นึ่งให้ร้อนแล้วประคบส่วนที่ต้องการ ประโยชน์ของการประคบสมุนไพร คือ ช่วยรักษาอาการตะคริว อาการช้ำบวม ลดการอักเสบ แก้ปวดเมื่อยคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)